เป็นอาจารย์หมออีกคนที่มักจะออกมาวิเคราะห์ถึงสถานการณ์โควิด – 19 ในประเทศไทย ว่าควร หรือ ไม่ควรผ่อนคลายในจุดใดบ้าง ซึ่งข้อมูลที่ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้วิเคราะห์ออกมานั้น ล้วนแต่เป็นประโยชน์จริงๆ โดยก่อนหน้านี้ รศ.นพ.ธีระ ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมทั้งระบุข้อความอีกว่า “อยากให้ดูข้อมูลวิชาการที่ถูกต้อง และนำมาใช้สรรค์สร้างนโยบาย อย่าหน้ามืดตามัวกับเรื่องเม็ดเงิน…กิเลสบังตา หากเกิดเหตุการณ์ระบาดรุนแรงขึ้นมา เราอาจไม่มีกำลังมาซับน้ำตาของทุกคนในประเทศ และสุดท้ายคนที่สร้างวิกฤติก็จะเปิดตูดหนีไป โดยไม่รับผิดชอบ”

อ่านข่าว – อาจารย์หมอจุฬาฯเดือดปุด เตือนชัดๆ 2 เดือนนี้เสี่ยงสูง ซัดนักการเมือง อย่าหน้ามืดมองแต่เม็ดเงิน
ล่าสุด รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้งว่า “ตั้งแต่เริ่มกรกฎาคมที่ผ่านมา…ดูแนวโน้มไม่ดีครับ ล่าสุดเมื่อวานติดเชื้อทำลายสถิติถึง 230,643 คน ยอดรวมตอนนี้ 12,360,540 คน ตายไปแล้ว 556,287 คน
- อเมริกา เพิ่มขึ้น 64,949 คน รวม 3,212,816 คน
- บราซิล เพิ่มอีก 42,619 คน รวม 1,755,779 คน คาดว่าอีกไม่ถึงสัปดาห์จะแตะสองล้านคน
- อินเดีย ติดเพิ่ม 25,803 คน รวม 794,855 คน อีกไม่ถึงสองสัปดาห์จะแตะหนึ่งล้านคน
- รัสเซีย เพิ่ม 6,509 คน รวม 707,301 คน แนวโน้มจำนวนคนติดเชื้อเพิ่มต่อวันของรัสเซียนั้นคงเดิมมาตลอด ไม่ลดลงเลย

ในขณะที่ทวีปยุโรป แอฟริกา ออสเตรเลีย โดยรวมมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้น อิหร่าน ปากีสถาน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หลักพัน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น…หลักร้อย เกาหลีใต้…ครึ่งร้อย มาเลเซียยังหลักหน่วย ภาพรวมทั่วโลกมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้นเร็วกว่าเดิม ความชันเริ่มไต่ขึ้นไปคล้ายช่วงต้นมีนาคม ระบาดระลอกแรกเห็นความรุนแรงตั้งแต่มีนาคม และใช้เวลา 3 เดือนในการควบคุมให้ลดลง
หากจำนวนเคสที่เพิ่มขึ้นแต่ละวันไต่ขึ้นเรื่อยๆ เช่นนี้ โลกน่าจะกำลังเข้าสู่การระบาดระลอกสองที่รุนแรง และยากในการรับมือกว่าระลอกแรกครับ ดังนั้น…ไทย…คงต้องเตรียมรับมือ #คนไทย…ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร พูดน้อยลง พบปะคนน้อยลงสั้นลง เลี่ยงที่แออัด หมั่นสังเกตอาการตนเองและครอบครัว ถ้าผิดปกติควรรีบไปตรวจรักษาเพื่อตัดวงจรระบาด
รัฐไทย…ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง #ท่านนายกรัฐมนตรี…โปรดดูแลนโยบาย “สุขภาพ…ท่องเที่ยว…และเดินทาง” ด้วยตนเอง ถัดจากนี้ไปอีกหลายปี นี่คือกล่องดวงใจของประเทศ ต้องคุมด้วยคนดี มีสติ ปัญญา ยึดมั่นในหลักคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประเทศจึงจะอยู่รอดครับ เราควรเรียนรู้ และจำไว้ว่า วิกฤติระลอกแรกนั้นเกิดขึ้นจนทุกคนประสบความยากลำบากมากมายเพราะอะไร
เราต้องทำทุกทางไม่ให้เกิดเหตุการณ์เชียร์แข่งรถในช่วงโรคระบาด หน้ากากล่องหน หวัดธรรมดา หักหัวคิวโรงแรม การ์ดตกแบบว่าแต่เขา…ตัวเราเป็นซะเอง และยาเสพติดรักษาสารพัดโรคขึ้นอีกในอนาคต เพราะเราอาจไม่มีแรงพอจะรับมือกับวิกฤติครั้งถัดไป สู้กับโรค…ยังพอไหว แต่สู้กับน้ำมือคนแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้น…ไม่โอเคครับ ด้วยรักต่อทุกคน…ประเทศไทยต้องทำได้…”

ขอบคุณ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย