ตามติดต่อเนื่องจากประเด็นเริ่มต้นเมื่อมีทีมมือปืนบุกไปลอบยิงใส่รถ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ถูกคนร้ายลอบยิง ภายในซอยสาริกา ถนนสุรวงศ์ ย่านบางรัก เมื่อคืนวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา กระทั่งมีการพาดพิงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผลจากการเสนอความเห็นคัดค้านโครงการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างเครื่องพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ไบโอ-แมทริกซ์ที่เคยมีเซ็นยกเลิกคำสั่งสมัยเป็น ผบช.สตม.

โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ระบุได้มีการนำเสนอเอกสารการจัดซื้อไบโอ-แมทริกซ์ ประกอบในสำนวนคดีกล่าวด้วย เนื่องจากเชื่อมั่นว่าเป็นสาเหตุทำให้ถูกลอบยิง กอปรปกับที่ผ่านทางด้าน ทนายษิทรา เบี้ยกำเนิด เองก็ออกมาตั้งข้อสังเกตุไปในทิศทางเดียวกัน
เนื่องจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ถือเป็นพยานปากสำคัญในการยื่นคำร้องให้คณะกรรมป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. ตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง
ขณะที่กรณีดังกล่าว เกิดกระแสข่าวว่าทางด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. ถูกตำหนิจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการสืบสวนคดีดังกล่าว ก่อนที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. จะออกมายอมรับว่าคลิปเสียงที่มีการหลุดรอดออกไปเป็นเสียงของพล.ต.อ.จักรทิพย์จริง ๆ แต่เป็นเพียงการสนทนาเรื่องการสั่งการให้ดำเนินการคลี่คลายคดีตามปกติ ไม่มีเรื่องการตำหนิตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊กของ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้โพสต์เรื่องการติดตามความคืบหน้า การดำเนินการตรวจสอบการทุจริตโครงการจัดซื้อเครื่องไบโอเมทริกซ์ ว่า ” วันนี้เดินทางมาให้ถ้อยคำปากแรกต่อ ป.ป.ช. ในโครงการไบโอเมทริกซ์ ที่ได้มีการร้องเรียน 4 นายพลตำรวจ 1 ในนั้นคือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ!!”

โดยจากข้อมูลดังกล่าว จึงยิ่งตอกย้ำให้เห็นอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับความขัดแย้งระหว่างพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ อันเกี่ยวเนื่องกับการจัดซื้อเครื่องไบโอเมทริกซ์
ไม่เท่านั้น ทนายษิทรา ยังระบุผ่านเฟซบุุุ๊กส่วนตัวด้วยว่า ” ได้ยินข่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะฟ้องผมปมไบโอเมทริกซ์ ชีวิตต่อจากนี้คงจะอยู่ยากขึ้น แต่ผมเตรียมใจไว้ก่อนจะร้องเรียนเรื่องไบโอเมทริกซ์ไปที่ป.ป.ช.แล้ว ผมจะเดินหน้าต่อ ทำความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฎ ไม่ว่าอนาคตจะต้องเจอกับอะไรก็ตาม!”

